น้ำส้มสายชูหมัก ทำเองได้ง่ายจัง

ขอบคุณภาพจากกูเกิล
น้ำส้มสายชู (Vinegar) 

เป็นของเหลวที่ได้จากกระบวนการหมัก มีองค์ประกอบหลักคือกรดน้ำส้ม

คำว่า Vinegar มาจากภาษาฝรั่งเศษโบราณ แปลว่า ไวน์ที่เปรี้ยว


ประเภทของน้ำส้มสายชู แบ่งออกเป็น 3 ชนิด

1 . น้ำส้มสายชูหมัก คือน้ำส้มสายชูที่ได้จากการหมัก เมล็ดธัญพืช เช่น ข้าว  ข้าวโพด ผลไม้ เช่น สับปะรด แอ๊ปเปิ้ล หรือ น้ำตาล กากน้ำตาล(molass
วัตถุดิบที่มี น้ำตาล (sugar) เช่น ผลไม้ต่างๆ เป็นอาหารของยีสต์ได้โดยตรง ส่วน วัตถุดิบที่มีสตาร์ซ (starch) เช่น ข้าว จะต้องเปลี่ยนเป็นโมเลกุลของน้ำตาลก่อน
การผลิตน้ำส้มสายชูหมัก เป็นการหมัก สองขั้นตอน คือ การหมักน้ำตาล ให้เกิดแอลกอฮอล์ (alcoholic fermentation) โดยใช้ยีสต์ (yeast) ตามด้วยการหมักแอลกอฮอล์ให้เกิดกรดอะซิกติก (acetic acid fermentation) ด้วยแบคทีเรียในกลุ่ม Acetobacter  และ Gluconobacter ในภาวะที่มีออกซิเจน น้ำส้มสายชูที่หมัก จะใส ไม่มีตะกอน ยกเว้นตะกอนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีกลิ่นหอมตามกลิ่นของวัตถุดิบ มี รสชาติดี มีรสหวานของน้ำตาลที่ตกค้างมีกลิ่นของวัตถุดิบที่ใช้ในการหมัก ความเข้มข้นขึ้นอยู่กับ ชนิดและปริมาณน้ำตาลของวัตถุดิบที่ใช้ในการหมัก และมีปริมาณกรดน้ำส้ม (acetic acid) ไม่น้อยกว่า 4%

2. น้ำส้มสายชูกลั่น เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการนำเอทธิลอัลกอฮอล์กลั่นเจือจาง (Dilute Distilled Alcohol) มาหมักกับเชื้อน้ำส้มสายชู หรือเมื่อหมักแล้วนำไปกลั่น (distillation)  หรือได้จากการนำน้ำส้มสายชูหมักมากลั่น น้ำส้มสายชูกลั่นจะต้องมีลักษณะใส ไม่มีตะกอนและมีปริมาณกรดน้ำส้มไม่น้อยกว่า 4% 

3. น้ำส้มสายชูเทียม เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการนำเอากรดน้ำส้ม (Acetic acid) ซึ่งสังเคราะห์ขึ้นทางเคมี เป็นกรดอินทรีย์มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนมีความเข้มข้นประมาณ 95 % มาเจือจางจนได้ปริมาณกรด 4 - 7% ลักษณะใส ไม่มีสี กรดน้ำส้มที่นำมาเจือจางจะต้องมีความบริสุทธิ์สูงเหมาะสมที่จะนำมาเป็นอาหารได้และน้ำที่ใช้เจือจางต้องเหมาะสมที่จะใช้ดื่มได้


สูตรน้ำส้มสายชูจากน้ำอ้อย
(ขอบคุณข้อมูลจาก http://workdeena.blogspot.com/2009/06/blog-post.html )

วัตถุดิบ.....

น้ำอ้อย 1ส่วน
น้ำเปล่า 8 ส่วน
ลูกแป้งข้าวหมาก 1/2 ลูก (*** อ่านสูตรทำลูกแป้งข้าวหมากเองได้ข้างท้ายค่ะ)


วิธีทำ.....
ให้นำน้ำอ้อยมาผสมรวมกันกับน้ำเปล่า คนให้เข้ากันและให้ใส่ภาชนะที่สะอาด เช่น โหลแก้ว
หลังจากนั้นให้เติม ลูกแป้งข้าวหมากบดละเอียดลงไปแล้วปิดปากโหล
(ไม่ควรใช้ที่ปิดที่เป็นโลหะ เก็บขวดโหลไว้ในที่อบอุ่น) ทิ้งไว้ประมาณ 15 วัน
ก็จะได้น้ำส้มสายชู ที่มีกลิ่นหอมของน้ำอ้อย แต่ยังกินไม่ได้ ต้องนำมากรองโดยผ้าขาวบางเสียก่อน
แต่บางคนก็เอามาต้มก่อนแล้วทิ้งไว้ให้ตะกอนนอนก้น แล้วก็ใช้ผ้าขาวบางกรองจะได้น้ำส้มสายชูที่ใส









ขอบคุณภาพจากกูเกิล
สูตรน้ำส้มสายชูจากกล้วยน้ำว้า 
(ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.baanmaha.com/community
/thread38551.html)

วัตถุดิบ....

1.กล้วยน้ำว้าสุกจัด จำนวน 2หวี
2.น้ำตาลทราย จำนวน 4-5ช้อนโต๊ะ
3.ขวดโหลหรือภาชนะอื่นๆ(เน้นเป็นแก้ว) ที่สามารถบรรจุได้ 4-5ลิตร จำนวน 1ใบ
4.น้ำสะอาด จำนวน 3-4ลิตร

วิธีทำ....

1.ปอกกล้วยน้ำว้าสุกจัดใส่กะละมังจากนั้นนำไปปั่นในเครื่องปั่นให้ละเอียด
แล้วนำลงใส่ในขวดโหลที่ได้เตรียมไว้
2.ใส่น้ำตาลทรายและน้ำตามลงไป ปิดฝาขวดโหลดให้สนิทหมักไว้ประมาณ 15วัน
ก็จะได้น้ำส้มที่มีความเปรี้ยวตามที่ต้องการ
3.เมื่อได้ความเปรี้ยวจากกล้วยน้ำว้าแล้วจะต้องกรองน้ำส้มออกจากขวดโหล
โดยใช้ผ้าขาวบางในการกรองแล้วใส่ขวดโหลเก็บไว้ใช้ได้ต่อไป
จะเก็บในตู้เย็นหรือในห้องอุณหภูมิปกติก็ได้









สูตรน้ำส้มสายชูจากผลไม้ 
(ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.foodrecipe2day.com/2011/
%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%
E0%B8%96%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%
B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%B2
%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8
%A3/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%
B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%B3%
E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%
AA%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0
%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%B
9%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%
B8%9C%E0%B8%A5/)


แบบที่ 1 วัตถุดิบ......

ผลไม้ที่มีรสชาติเปรี้ยวที่นิยมคือสับปะรด มะไฟ มะขามเปียกโดยเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่งมาทำ

วิธีทำ......
1.เมื่อได้ผลไม้ที่ต้องการแล้วก็ทำการคั้นน้ำแล้วกรอกด้วยผ้าขาวบางที่สะอาดๆ แล้วเทใส่ไหเอาไว้
2.ผูกปากไหด้วยผ้า เก็บไหเอาไว้ในที่ไม่สะเทือน ประมาณสัก 10 วัน
ในระหว่าง 10 วัน ถ้าหากมีฟองให้ช้อนออกแล้วทิ้งฟองไปเลย ระวังอย่าให้สะเทือนหรือไปเขย่าไห
เมื่อครบ 10 วันแล้วให้รินใส่ไหใหม่อีกไหหนึ่ง แล้วตั้งไว้ในที่ ที่ไม่สะเทือนเช่นกัน
3.เมื่อรินใส่ไหใบที่ 2 แล้ว ให้ผูกปากไหด้วยผ้าแล้วนำไปผึ่งกลางแดดจัดๆ สัก 3-4 วัน
จนเห็นว่ามีฝ้าลอยอยู่เหนือน้ำเเป็นแพ จึงนำมาใช้ได้
***สำหรับน้ำส้มผลไม้นี้ถ้าเก็บไว้นานวันจะทำให้มีรสเปรี้ยวจัดเมื่อนำมาขายก็รินใส่ขวดที่ใสกรอกใส่ขวดแล้วอุดจุกให้แน่น

แบบที่ 2 วัตถุดิบ......
ผลไม้รสเปรี้ยว 3 กิโลกรัม
น้ำตาลทรายแดง 1 กิโลกรัม
น้ำสะอาด 10 ลิตร

วิธีทำ.....
ลำลายน้ำตาลในน้ำที่เตรียมไว้จนละลายดีแล้ว
หั่นผลไม่ที่เตรียมไว้เป็นชิ้นเล็ก ใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ นิยมใช้ภาชนะที่ทำจากแก้ว
(อย่าใช้โลหะหรือพลาสติกนะคะ หรือจะหาโอ่งใบน้อยๆ มาใส่ก็ได้ค่ะ)
เติมน้ำตาลที่ละลายแล้วลงไป ปิดฝาให้สนิท 3-4 วันให้มาเปิดดู 1 ครั้ง
หากเจอฝ้าสีขาวให้เอาแท่งแก้วหรือพลาสติกชนิดดีตีให้ฝ้าแตก ทำแบบนี้ทุกครั้งที่มาเปิดนะคะ
แต่ถ้าเจอฝ้าสีเขียวหรือสีดำก็โบกมือลาได้เลยค่ะ มันใช้ไม่ได้แล้ว ทิ้งลูกเดียวจ้า
ทำไปจนกว่าผลไม้จะย่อยจนเละแล้วจมลงก้นถังค่ะ
กรองเอาน้ำมาใช้ได้เลยค่ะ







ขอบคุณภาพจากกูเกิล
สูตรน้ำส้มสายชูจากดอกอัญชัน 

วัตถุดิบ....
ดอกอัญชันประมาณ 30-40 ดอก
ขวดเฮลบลูบอยที่มีน้ำเชื่อมอยู่ในนั้นสูงประมาณ 2.5 เซนติเมตร
น้ำสะอาดประมาณ 700 มิลลิลิตร

วิธีทำ.....
ขยี้ดอกอัญชันให้ช้ำ แล้วนำไปใส่ลงในขวดแก้วมีน้ำเชื่อมก้นขวดที่เตรียมไว้
เติมน้ำสะอาดลงไป ปิดฝาแล้วผสมให้เข้ากัน เขย่าเบาๆ โดยหมุนขวดไปในทางเดียวกันจนกว่าจะเข้ากันนะคะ
คลายฝาให้หลวม แต่ไม่เปิดโล่งเอาฝาแปะไว้ที่ปากขวดอย่างนั้นแหละค่ะ
ทุกวันให้เข้าไปเขย่าขวดเหมือนเดิมและคลายฝาทิ้งไว้เช่นเดิมนะคะ
ประมาณ 3 เดือนจะได้น้ำส้มอัญชันมาใช้ค่ะ ให้สังเกตดูฝ้าด้วยนะคะ ถ้าเป็นสีดำก็แสดงว่าเสียแล้วค่ะ
ปล.อายุการใช้งานของสูตรนี้ไม่นานนัก นำน้อยๆ แต่พอใช้ประมาณเดือนหรือสองเดือนก็พอนะคะ ^^






ขอบคุณภาพจากกูเกิล
สูตรน้ำส้มสายชูจากน้ำมะพร้าว 

วัตถุดิบ.......
น้ำมะพร้าว 1 ลิตร
น้ำตาลทรายแดง 150 กรัม
เชื้อยีสต์ (ใช้ยีสต์ขนมปังที่หาซื้อได้ตามห้างก็ได้นะคะ) 1/4 ช้อนชา
โหลแก้วปากกว้างหน่อย 2 อัน
กระดาษไข
เชือก

วิธีทำ.......
ต้มน้ำมะพร้าวกับน้ำตาลให้เดือด ทิ้งไว้ให้เย็น
แบ่งน้ำมะพร้าวออกมา 1 แก้วโรยยีสต์ลงไปทิ้งไว้จนเกิดฟอง เทน้ำหมักแก้วนี้ลงไปในน้ำมะพร้าวทั้งหมด
เทน้ำทั้งหมดใส่ขวดโหล ปิดปากโหลด้วยกระดาษ รัดเชือกให้แน่น โดยจะต้องเหลือที่ว่างในโหลด้วย
(ที่ว่างต้องเป็น 1/3 ของขวดโหล) วางโหลในกะละมังใส่น้ำเพื่อกันมด
ตั้งทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องนาน 45 วันขึ้นไป แล้วทำการถ่ายใส่ขวดโหลปากกว้างอีกอันที่เตรียมไว้
ปิดปากด้วยกระดาษรัดเชือกให้แน่นเช่นเดิมประมาณ 5 วันเพื่อระเหยแอลกอฮอล์ทิ้ง
แล้วจึงนำมากรอง หากจะนำมาใช้ก็ให้ต้มด้วยความร้อน 60 องศา นาน 30 นาที

(*****สำหรับสูตรน้ำส้มสายชูจากสับปะรด วัตถุดิบ......น้ำสัปปะรดคั้น 5 ลิตร น้ำสะอาด 8 ลิตร น้ำตาลทราย 1 กิโลกรัม เทรวมกันต้มให้เดือดนาน 5-10 นาที ทิ้งให้เย็น แบ่งน้ำสัปปะรดครึ่งถ้วย โรยยีสต์ 1 ช้อนชา นอกนั้นวิธีก็เหมือนกับน้ำมะพร้าวค่ะ ^^ ******)








ขอบคุณภาพจากกูเกิล
สูตรทำลูกแป้งข้าวหมาก 

สูตรลูกแป้งข้าวหมากของขุนกฤษณามรวิสิฐ 
ชะเอม 3 ตำลึง 
พริกไทย 1 ตำลึง 
ดีปลี 2 ตำลึง 
กระเทียม 7 ตำลึง 
ขิง 2 ตำลึง 
ข่า 1 ตำลึง 
ข้าวเจ้า 10 ชั่ง 


สูตรลูกแป้งข้าวหมากของ ส.ก.ศ. 
ข่าแห้งบด 1 กิโลกรัม 
ชะเอม 1 กิโลกรัม 
กระเทียมบด 1 กิโลกรัม 
แป้งข้าวเจ้า 1 กิโลกรัม 
ผงฟู และแป้งเชื้อ พอผสมได้ทั่วถึงกัน 


สูตรลูกแป้งข้าวหมากของผู้ผลิตบางราย (สิรินทรเทศ เต้าประยูร) 
ชะเอม 4 ตำลึง 
กระเทียม 4 ตำลึง 
ดีปลี 1 ตำลึง 
ขิงแห้ง 1 ตำลึง 
พริกไทย 1 ตำลึง 
แป้ง 1000 กรัม 

วิธีทำลูกแป้งข้าวหมาก มีลำดับขั้นตอน ดังนี้ 
1. ผสมแป้งกับน้ำ หรือตำข้าวกับน้ำจนละเอียด 
2. นวดให้น้ำซึมไปทุกส่วนของแป้ง 
3. ผสมเครื่องเทศตามสูตร 
4. โรยแป้งเชื้อหรือลูกแป้งเก่าที่บดละเอียดแล้ว 
5. นวดให้ส่วนผสมและแป้งเชื้อเข้ากัน 
6. ทิ้งไว้ให้แป้งชื้นสักครู่ 
7. ปั้นเป็นก้อนวางบนกระด้งที่โรยด้วยแป้งเชื้อปนไว้แล้ว 
8. เมื่อวางลูกแป้งเต็มแล้วโรยแป้งเชื้อทับอีกครั้ง 
9. ปิดด้วยกระด้งคลุมด้วยผ้าหนา ๆ บ่มไว้ประมาณ 24 ชั่วโมง 
10. จนเส้นใยราขึ้นเต็มก้อนแป้ง 
11. เปิดผ้าคลุมออกผึ่งให้แห้งในที่ร่ม 
12. นำไปตากแดดจนแห้งสนิท แล้วเก็บในภาชนะที่ปิดมิดชิด


ลูกแป้งเหล้าสมุนไพร 
การทำลูกแป้งจะทำอยู่ 2 วิธี คือ ลูกแป้งเหล้าขมใช้สำหรับหมักสุรา สุราแช่พื้นบ้าน (อุ สาโท กระแช่ 
น้ำขาว ฯลฯ) และลูกแป้งหวาน (ลูกแป้งขาวหมาก) จะใช้สำหรับทำข้าวหมาก 

ส่วนประกอบในการทำลูกแป้งเหล้าสมุนไพร 
1. เครื่องสมุนไพร จำนวน 29 ชนิด อย่างละ 6 สลึง ประกอบด้วย ดีปลี พริกไทย ต้นแจง ต้นตะเคียน 
โกฐสอ โกฐพุงปลา โกฐหัวบัว เทียนตาตั๊กแตน รากสามสิบ กำจัด กำจาย สีหวด ลูกกระวาน ชุมเรียงป่า 
ชุมเรียงสวน กระเทียม ข่า พริกแห้งเม็ดเล็ก มะเขือขื่น มะแว้งเครือบละเอียด 
2. แป้งข้าวเจ้า 5 กก. 
3. แป้งข้าวเหนียว 5 กก. 
4. ลูกแป้งเชื้อ 20 ลูก 
5. เหล้าขาว 2 ขวด 
6. น้ำสะอาด 10 ถ้วยตวง 

7. ข่าแก่โขลก 2 กก...... 

ขั้นตอนการทำ 
เคล้าแป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว ลูกแป้งเชื้อและสมุนไพรทั้ง 29 ชนิด ที่บดละเอียดแล้วให้เข้ากัน เติม 
น้ำข่าแก่ และเหล้าขาว นวดให้เป็นเนื้อเดียวกันจนเนียน แบ่งปั้นเป็นก้อนพอเหมาะวางเรียงในกระด้งที่รอง 
ด้วยแกลบ โดยวางห่างกันพอประมาณ ใช้ลูกแป้งบดละเอียดโรยลงบนก้อนแป้งอีกเล็กน้อย พรมด้วยน้ำข่า 
และเหล้าขาวให้ชื้น จากนั้่นครอบด้วยตะแกรง และคลุมด้วยผ้าขาวบางอีกชั้นตั้งไว้ในที่ร่มประมาณ 1-2 วัน 
จะเกิดเส้นใยเชื้อรา สีเหลืองอ่อนขึ้นฟูเต็ม เรียกว่า ระยะขนลูกเจี๊ยบขึ้น จากนั้น ถ่ายกระด้ง แกะเอาแกลบ 
ที่ติดอยู่ออก ผึ่งแดดให้แห้งสนิท ประมาณ 2-3 แดด เก็บไว้ในกล่องที่ปิดสนิท 
ลูกแป้งเหล้าที่ดีจะต้องมีลักษณะ ฟู น้ำหนักเบา แห้งสนิท และมีกลิ่นหอมของสมุนไพร 


การทำลูกแป้งหวาน (ลูกแป้งข้าวหมาก)... 
ส่วนผสมของลูกแห้งหวานจะน้อยกว่าลูกแป้งขม ประกอบด้วย ขิงแก่ ชะเอม พริกไทย กระเทียม 
ลูกแป้งเชื้อ แป้งข้าวเจ้า วิธีทำเช่นเดียวกันกับการทำลูกแป้งขม 
 
การเพาะเชื้อลูกแป้ง 
ในกรณีไม่มีลูกแป้งเชื้อสามารถเพาะเชื้อใหม่ได้ โดยใช้ส่วนผสมเช่นเดียวกับการทำลูกแป้งเหล้า 
แต่ไม่มีส่วนของลูกแป้งเชื้อ ใช้เวลาให้เชื้อเดินประมาณ 3-5 วัน สังเกตุและเลือกก้อนแป้งที่มีเชื้อเดิน 
มากที่สุด นำออกผึ่งแดดให้แห้ง จะได้ลูกแป้งเชื้อประมาณ 2 ใน 3 จากทั้งหมดเท่านั้น 








ตามอ่านการอัพนิยายได้ที่บล็อกนี้เลยค่ะ



ส่วนบล็อกนี้จะเอาไว้อัพความรู้ต่างๆ ในการทำบล็อกและการเขียนนิยายค่ะ


ตอนนี้กำลังอัพเรื่อง พรหมเล่ห์รัก กับเรื่อง Love Under The Sky ค่ะ




posted under | 0 Comments

การแต่ง Blogger สำหรับคนไม่มีพื้นฐานเลย ตอนที่ 3 Facebook Like Box

การทำ Like box ติ๊กสารภาพเลยว่าปล้ำกับมันตั้งแต่บ่าย 3 จน 2 ทุ่มค่ะ
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา..เรามาเริ่มกันเลยดีกว่านะคะ

การที่จะทำ Like box ได้นั้นจะต้องมีหน้าแฟนเพจอยู่แล้วนะคะถึงจะทำได้
ถ้าไม่มีก็ให้ไปสร้างหน้าแฟนเพจขึ้นมาก่อนใน Facebook ค่ะ

ลองทำจากหลายๆ ที่แล้วค่ะแต่เว็บนี้เขาอธิบายได้ชัดกว่าที่อื่น...ทำตามได้ง่ายค่ะ

พอเรามีหน้าแฟนเพจเรียบร้อยแล้ว
อยากจะเอาหน้าแฟนเพจมาแปะไว้ที่ Blogger ของเราต้องทำยังไง
เหมือนไม่ยากเลยค่ะแต่กว่าติ๊กจะทำสำเร็จก็นานพอดู

ขั้นตอนการทำ

1. Copy URL ของหน้าแฟนเพจที่เพิ่งทำเสร็จ
เอาไปวางไว้ที่ Notepad ก่อนเลยค่ะเพื่อสะดวกแก่การทำงาน
ปล.เอามาทั้งหมดพอวางที่ Notepad แล้วมันจะยาวเฟื๊อยแค่ไหนก็อย่าไปสนค่ะ

2. เข้าไปที่ลิงค์นี้ในหน้า Facebook ค่ะ
กดได้เลยค่ะ
พอเข้าไปแล้วจะเห็นช่องที่ให้เรานำ URL ของแฟนเพจที่เรา copy เอาไว้แล้วไปวางค่ะ
ช่อง “Facebook Page URL
หลังจากที่เราใส่ URL ลงไปเราสามารถปรับแต่ง Like box ได้ตามใจชอบค่ะ
มีที่ให้ติ๊กแค่ไม่กี่ที่และก็ขึ้นตัวอย่างมาทางด้านขวามืออยู่แล้วค่ะ
ไม่ยากเลยสำหรับการตกแต่ง Like box

3. เมื่อตกแต่ง Like box เสร็จเรียบร้อยแล้ว
ก็ให้กด Get code ที่อยู่ปุ่มล่างสุดของกล่องปรับแต่งค่ะ
เมื่อได้ code มาแล้ว ก็ทำทุกอย่างเหมือนเดิมคือ
หากต้องการเพิ่มอะไรเข้าไปในบล็อกเราก็แค่เพิ่ม Code ลงใน
การออกแบบ>>>องค์ประกอบหน้า>>>เพิ่ม Gadget>>>
>>HTML/จาวาสคริปต์ ทำทุกขั้นตอนนับจากนี้
เหมือนกับการเพิ่มกล่องเพลงในบล็อกเลยค่ะ
สรุปก็คือ ^O^ ไม่มีอะไรยากเลยค่ะ
แต่กว่าจะหาลิงค์ไป Like box ได้ถูกอันนั้น
หายากมากค่ะเพราะมีแต่ลิงค์เก่าเอาไปทำก็ทำไม่ได้

งานอดิเรก - สวดคาถาเงินล้าน

นะโม 3 จบ

สัมปะจิตฉามิ นาสังสิโม

พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ

พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม

มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม

มิเตพาหุหะติ

พุทธะมะอะอุ นะโม พุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย

พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม

สัมปะติจฉามิ

เพ็ง เพ็ง พา พา หา หา ฤๅ ฤๅ

การแต่ง Blogger สำหรับคนไม่มีพื้นฐานเลย ตอนที่ 2 ใส่กล่องเพลง

การเขียนบทความ การจัดการอื่นๆ บนบล็อก สามารถคลำไปได้ง่ายๆ จ้า
บทความในบล็อกนี้เน้นอะไรที่ทำแล้วมักไม่ได้อย่างใจ
นั่งมานานแล้วนะทำไมไม่ได้สักที ประมาณนั้นละค่ะ  ^O^

ตอนที่ 2 นี้ เรามาว่ากันด้วยเรื่องการใส่เพลงลงในบล็อกของเรากันนะคะ
ก่อนอื่นต้องไปสมัครตามเว็บจัดการเพลงต่างๆ ก่อนค่ะ ในที่นี้จะขอยกตัวอย่าง
www.mixpod.com นะคะ หน้าตาของเว็บก็เป็นตามนี้เลยค่ะ



เมื่อสมัครเสร็จแล้วก็ค้นหาเพลงที่เราต้องการจะนำไปเปิดในบล็อกได้เลยค่ะ
จะกี่เพลงก็ได้ตามแต่เราต้องการ 
เลือกเพลงเสร็จแล้วก็ตกแต่งกล่องเพลงให้สวยงามตามชอบใจ
เลือกรูปแบบกล่องเพลง


เลือกสีและลวดลายของกล่องเพลง


กำหนดกล่องเพลง เล่นเพลงอัตโนมัติ เล่นเพลงซ้ำ หรือปรับระดับเสียง ทางด้านขวามือจะแสดงตัวอย่างของกล่องเพลงที่เราตกแต่ง

กด Save playlist และเลือกประเภทเพลง ตั้งชื่อให้เรียบร้อย
ก่อนจะกดปุ่มล่างสุด Save (get code)


เลือก get code สำหรับ Blogger คลิ๊กคลุมดำ Code แล้วคลิ๊กขวา copy


เปิด Blogger ขึ้นมา ทำตามขั้นตอนที่ตอนที่ 1 ได้เอ่ยถึงไปแล้วนะคะ
เข้าสู่ระบบได้เลยค่ะ เปิดเข้าไปจะเห็นหน้า “แผงควบคุม” >>> “การออกแบบ” >>> “องค์ประกอบหน้า”
เมื่ออยู่ที่หน้านี้แล้ว เราจะเห็นคำว่า “เพิ่ม Gadget” นะคะ คือว่าเราอยากจะเอากล่องเพลงวางไว้ที่แถวไหนราก็เลือกกดที่แถวนั้นค่ะ เพราะตำแหน่งระหว่างแถวเนี่ย เราสามารถเคลื่อนย้ายได้ค่ะ พอเรากด “เพิ่ม Gadget แล้ว จะมีหน้าต่าง “เพิ่ม Gadget” ขึ้นมานะคะ


เลื่อนลงเรื่อยๆ ช้าๆ นะคะ หา Gadget HTML/จาวาสคริปต์” ค่ะ
ถ้าเจอแล้วกดเลยนะคะ มันจะขึ้นมาตามรูปค่ะ คราวนี้เราก็วาง code ที่เรา copy มาจาก www.mixpod.com เมื่อสักครู่ได้เลยค่ะที่ช่องเนื้อหา ส่วนช่องชื่อเนี่ย เราจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ค่ะแล้วแต่เรา เสร็จแล้วก็กด “บันทึก” ปุ่มสีส้มน่ะค่ะ

ตัวอย่างหน้าตาของกล่องเพลงในบล็อกของติ๊กที่สำเร็จออกมาแล้วค่ะ

ขอให้แต่งบล็อกกันให้สนุกนะคะ ^O^

การแต่ง Blogger สำหรับคนไม่มีพื้นฐานเลย ตอนที่ 1 เปลี่ยนแม่แบบ

พื้นฐานการแต่ง Blogspot / Blogger เบื้องต้นสำหรับคนที่ไม่รู้อะไรเลย
เนื่องจากตัวติ๊กเองเพิ่งเริ่มเล่น Blogger และเห็นว่า
ทำไม? บล็อกของเราไม่สวยเหมือนใครเขา TT^TT
ด้วยสาเหตุนี้ละค่ะจึงเกิดแรงฮึดอยากทำบล็อกให้สวยงามเหมือนของคนอื่นบ้าง
ก่อนอื่นติ๊กขอเหมานะคะว่าทุกคนที่เข้ามาอ่านเพื่อหาข้อมูลแต่งบล็อก มี Blogger เป็นของตัวเองเรียบร้อยแล้ว ถ้ายังไม่มีให้ทำตามข้อมูลของลิงค์นี้เลยค่ะ พี่เขาเทพจริงๆ นับถือมาก http://www.hackublog.com/2009/09/blog.html
เมื่อได้บัญชี Blogger มาแล้ว เวลาเราจะเข้าไปใช้งานเราจะเจอหน้าตาแบบนี้ค่ะ


ซึ่งเราก็ใส่อีเมลและรหัสผ่านลงไป ลงชื่อเข้าใช้งานแล้วจะเข้าไปที่หน้านี้ค่ะ


ซึ่งเราจะเรียกหน้านี้ว่า “แผงควบคุม” นะคะ
ขั้นต่อมาซึ่งสำคัญต่อหน้าตาและภาพลักษณ์ของเรามาก อิอิ
ขั้นตอนเลือกแม่แบบค่ะ เราคลิ๊กที่ “การออกแบบ
จะเข้ามาหน้านี้ค่ะ


ถ้าเราไม่อยากยุ่งยากก็กดที่ “เครื่องมือออกแบบแม่แบบ” เราจะเข้าไปที่แม่แบบของ Blogger ที่มีสำเร็จรูปเอาไว้ให้อยู่แล้ว
แต่!!!!!! ก็เพราะว่าเราไม่พอใจนี่ละค่ะ เราถึงต้องการเปลี่ยนรูปแบบของแม่แบบ
เราสามารถหาแม่แบบ (Template) จากใน Google หรือตามที่ต่างๆได้เลยค่ะ อ่านรายละเอียดและการแนะนำเว็บที่เอาไว้หาแม่แบบได้ที่ลิงค์นี้เลยค่ะ http://www.hackublog.com/2009/09/2.html
ส่วนติ๊กจะขออธิบายแบบสั้นๆ ง่ายๆ พอเข้าใจสำหรับมือใหม่อย่างเรากันนะคะ
ขอสารภาพว่าตั้งแต่สมัครมาหลายเดือนแล้ว เพิ่งทำได้ก็วันนี้ละค่ะ (05/01/2555)
ยกตัวอย่างนะคะ
ติ๊กเลือกเว็บจากลิงค์มาหนึ่งเว็บ แล้วก็เข้าไปเลือกดูแม่แบบที่เราชอบใจ


เลือกๆ หาๆ เอาที่มันถูกใจที่สุด เราสามารถกดดูตัวอย่างหน้าเว็บของแม่แบบได้ค่ะโดยกดที่ปุ่ม Demo หรือบางเว็บก็จะเป็นปุ่ม Preview และถ้าเราพอใจแม่แบบนั้นก็กดที่ปุ่ม Download ได้เลยค่ะ ซึ่งโดยส่วนใหญ่มันจะมาในรูปแบบ Zip file นะคะ เช่นติ๊กชอบแม่แบบ CAMINO


ติ๊กก็เลือก Download ลงเครื่อง ซึ่งจะมาในรูปแบบ Zip file ค่ะ


พอเราได้มาแล้วให้คลิ๊กซ้ายสองครั้งเพื่อเปิดออก หาไฟล์นามสกุล จุดxml นะคะ แล้วก็ทำการแตกไฟล์ออกมา ซึ่งแน่นอน ติ๊กทำไม่เป็น 5555 ^^”แต่ก็มั่วจนได้เพราะมันก็ไม่ยาก
“แตกไฟล์นะคะ เมื่อเราเปิด Zip file ขึ้นมา แล้วหาไฟล์นามสกุล จุดxml จนเจอแล้ว ก็ทำการคลิ๊กขวาที่ไฟล์นามสกุล จุดxml นั้น จะขึ้นแถบมาให้เลือกค่ะ



ให้เราเลือก “Extract to the specified folder” เลือก Save ไว้ที่หน้า Desktop นะคะ เวลาใช้งานจะได้หาได้ง่ายๆ
คราวนี้เราก็เข้าไป Log in ที่ Blogger ค่ะ ไปที่แผงควบคุม >>>รูปแบบ>>>แก้ไข HTML คลิกปุ่ม เรียกดู (เพื่อจะเอาแม่แบบที่เราแตกไฟล์ไว้นั้นเข้ามาไงคะ)
พอเราเลือกแม่แบบของเราได้แล้ว กดปุ่ม อัปโหลด ค่ะ ตอนที่เรากดอัปโหลดนั้นระบบจะถามเราว่า เราจะเก็บแม่แบบเดิมไว้ไหม? จะเก็บหรือลบ ก็คลิ๊กได้เลยค่ะ ^^
เราจะให้ระบบแสดงตัวอย่างก่อน ถ้าพอใจแม่แบบนี้แล้วก็กดบันทึกแม่แบบได้เลยค่ะ ง่ายๆ แค่นี้เองนะคะ แต่ทำตั้งกะเช้ายันบ่ายสำหรับคนที่คลำทางเอาเองอย่างติ๊ก ^^” ส่วนข้อความในปุ่มของแม่แบบเราสามารถเข้าไปเปลี่ยนได้ค่ะ เข้าไปตามที่บอกตอนต้นค่ะ ทุกหัวข้อจะมีปุ่มให้กดแก้ไขค่ะ


ถ้าแก้ไขเสร็จแล้ว อย่าลืมกดปุ่มบันทึก (ปุ่มสีส้ม) ด้วยนะคะ
พอบันทึกแล้วก็กด ดูบล็อกได้เลยค่ะ เพื่อจะได้ดูว่าต้องแก้ไขอะไรอีกหรือเปล่า ปุ่มดูบล็อกอยู่ท้ายสุดของแถบบนค่ะ


นี่เป็นเบื้องต้นแบบง่ายๆ ที่ติ๊กเรียบเรียงมาจากการที่ทำเองในวันนี้ค่ะ
ซึ่งกว่าจะทำได้นั้นแทบกระอักเลือด พอทำเสร็จก็รีบเขียนบันทึกนี้ขึ้นมาเลยค่ะ
^O^ เพื่อคนหัวอกเดียวกันไงคะ 5555

*****ติดตามตอนต่อไปค่ะ*****
จะนำเรื่องหารแต่งบล็อก ใส่กล่องเพลง ใส่กล่อง Like box มาให้อ่านและลองทำตามดูค่ะ

บทความที่ใหม่กว่า บทความที่เก่ากว่า หน้าแรก

ค้นหาบล็อกนี้

กด Like ให้กำลังใจได้นะคะ

ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนค่ะ

นักเขียนฝึกหัดนามปากกา

i green monkey + อีก 3

ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ

รูปภาพของฉัน
Thailand
เป็นผู้หญิงที่พยายามฝึกหัดเขียนนิยายให้ดี เทียบเท่ากับความสามารถในการเลี้ยงหมาน้อยที่บ้านให้อ้วนเป็นลูกขนุน ^^
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

ผู้เยี่ยมชม

Followers


Recent Comments